ขั้นตอนปฏิบัติหลังจากตรวจสอบพบ Malware ในเว็บไซต์ WordPress

ขั้นตอนปฏิบัติหลังจากตรวจสอบพบ Malware ในเว็บไซต์ WordPress

1. หากเว็บไซต์มี Error สามารถตรวจสอบ Error log ของเว็บไซต์ เพื่อหาสาเหตุได้ที่บทความ

วิธีดู Error Log ของ Website เมื่อเจอ Error 500 ใน Directadmin Control Panel

 

2. ตรวจสอบที่อยู่ของไฟล์มัลแวร์หรือไฟล์ที่ถูกฝังมัลแวร์ในหน้าโดยสามารถหามัลแวร์ที่ระบบตรวจพบได้ที่บทความ ตรวจสอบ Virus & Malware Scan ด้วยตัวเอง ใน Directadmin

 

จากภาพจะเห็นได้ว่ามีการแจ้งเตือนว่าไฟล์ index.php ซึ่งเป็น wordpress core files มีการโดนฝังมัลแวร์ หากลบไฟล์นี้ไป WordPress จะเกิด Error

ให้เราเลือกที่ Checkbox ด้านหลังและกด unblock เพื่อที่จะให้เราสามารถเข้าไปแก้ไขไฟล์ได้

3. การแก้ไขไฟล์ การแก้ไขไฟล์นั้นสามารถทำได้หลายวิธีเช่น การใช้ FTP เข้ามาเพื่อ ​Download File มาเพื่อทำการแก้ไข และ Upload File ขึ้น Server หลักแก้ไขเสร็จ เพื่อลดความสับสนทางเราขอใช้ Function File Manager ใน ​Directadmin เพื่อประกอบการอธิบาย

3.1 เลือกเมนู File Manager ในหน้าแรกของ Directadmin

3.2 หาไฟล์ ที่ต้องการแก้ไขตามที่ที่ระบบแจ้งมาในที่นี้คือ public_html/wp-content/index.php

4. จากรูปภาพเป็นเพืยงตัวอย่างหนึ่งของการโดนฝังมัลแวร์ การฝังมัลแวร์สู่เว็บไซต์นั้นสามารถทำได้มากมายหลายวิธี ซึ่งวิธีที่จะทำการแก้ไขนั้นทำได้ยาก แนะนำให้ทำการ Download Corefile ใหม่มาจาก เว็บไซต์ WordPress โดยจะต้องเลือก Version ให้ตรงกับ Version WordPress ที่ใช้อยู่
สามารถ Download File ได้ ที่นี่

*** ในกรณีติดมัลแวร์ใน Plugin แนะนำให้ทำแบบเดียวกันคือ ลบ Plugin ทีติดตั้งทิ้งและทำการ Download plugin ใหม่

จากข้างต้นเป็นเพียงตัวอย่างและเป็นกรณีที่เว็บไซต์โดนฝังมัลแวร์มาไม่มากนักและ หากโดนฝังมัลแวร์มามาก ( ตามภาพตัวอย่างด้านล่าง )

แนะนำให้ Download เฉพาะ รูปภาพใน wp-content/uploads มาเก็บไว้ และทำการลง WordPress ใหม่ทั้งหมด

***** ข้อควรระวัง wp-content/uploads นั้นมีโอกาศโดนฝังมัลแวร์ไว้เช่นเดียวกันควรตรวจสอบให้ดีว่ามีไฟล์อื่นนอกเหนือจากไฟล์มัลติมีเดี่ย หรือไม่

สำหรับวิธีการแก้ไข ทำดังนี้ครับ

Clean Install

1.  Backup Website ก่อนแก้ไขเพื่อความปลอดภัย
2. Download  ไฟล์ใน wp-content/uploads มาเก็บไว้ทั้งหมดก่อน พร้อมทั้งตรวจสอบไฟล์ในโฟเดอร์ wp-content/uploads ว่ามีไฟล์แปลกปลอม นอกจากไฟล์รูปภาพหรือไม่ หากเจอไฟล์ .php , .jsให้ลบออกให้หมด อาจะเป็นไฟล์ของ ผู้ไม่หวังดี
3. ก่อนลบ folder wp-contents/plugins/ ให้เก็บชื่อของ plugin ทั้งหมดที่อยู่ใน wp-contents/plugins/ เพื่อที่จะใช้ในการค้นหา plugin ในการ download เพื่อที่จะนำมาใช้ในขั้นตอนที่ 9
4. เปลี่ยน Username  Password ของระบบจัดการ Hosting (DirectAdmin, VestaCP, cPanel, Etc.) รวมถึง FTP และ Database ทั้งหมด
5. ลบไฟล์ในโฟเดอร์ public_html ทั้งหมด
6. แก้ไขไฟล์ wp-config.php ตั้งค่าการเชื่อมต่อ Database ให้ถูกต้อง ( ในขั้นตอนนี้ หากยังไม่ได้เปลี่ยน Password Database แนะนำให้แก้ไขด้วยนะครับ )
7. ทำการ Upload WordPress Core ไปยัง Server อีกครั้ง
8. ทำการ Upload wp-content/uploads ไปยัง Server
9. ติดตั้ง Plugin & Theme จากตัวระบบ WordPress เอง (ไม่แนะนำให้นำไฟล์ Plugin เก่ามาใช้ แนะนำให้กด Download จากแหล่งที่มาใหม่) และให้อัพเดตเป็นเวอร์ชั่นล่าสุดให้หมด
10. ในขั้นตอนนี้ ก็จะได้หน้าเว็บและส่วนเสริมต่างๆกลับมาเป็นเหมือนเดิมหมดแล้ว โดยปราศจากไฟล์ไวรัสต่างๆนะครับ ( เว้นแต่ว่า ถูกฝังไว้ใน Database โดยวิธีแก้จะบอกในบทความถัดไปครับ  )

เมื่อทำการ Clean Install เพื่อกำจัด Code จากผู้ไม่หวังดีแล้ว แต่ก็ยังมีช่องโหว่อยู่ เพราะว่าเกิดจากตัว Plugin หรือ Theme ยังไม่ได้ทำการแก้ไข ก็อาจทำให้เว็บไซต์เกิดปัญหาขึ้นได้ แนะนำให้เลือกใช้ Plugin ที่ได้รับการยืนยันจา WordPress.org นะครับ และเลือก Plugin ที่มีการ Update แก้ไข อยู่เป็นประจำครับ

หากลูกค้าต้องการให้ทางเราดำเนินการแก้ไขทางเรามีบริการ Dev Support สำหรับแก้ไขปัญหาต่างๆของเว็บไซต์