สามารถดำเนินการตามขั้นตอนดังนี้
1. เมื่อ Login DirectAdmin ตามคู่มือ การเข้าใช้งาน ไดเรกแอดมิน (DirectAdmin) เรียบร้อย ไปที่เมนู Admin Backup/Transfer ที่หัวข้อ Admin Tools
2. กดปุ่ม “Restore” (ปุ่มสีฟ้า) เพื่อเริ่มกระบวนการกู้คืน
3. เลือกแหล่งที่มาของ Backup (Step 1: From Where)
3.1 กรณีที่ทำรายการจากเครื่องปลายทาง สามารถเลือกวิธีการ FTP ได้เลยเพื่อดำเนินการดึงข้อมูลจากเครื่องต้นทางหรือ Server ภายนอก โดยใส่ข้อมูลดังนี้
– IP: ระบุ IP ของเครื่องที่เก็บไฟล์ Backup
– Username: กรอกชื่อผู้ใช้ FTP
– Password: กรอกรหัสผ่าน FTP
– Remote Path: ระบุโฟลเดอร์ที่เก็บ Backup
– Port: ค่าเริ่มต้นเป็น 21 (พอร์ตของ FTP)
– Secure FTP: ติ๊กถูกหากต้องการเชื่อมต่อแบบปลอดภัย แต่ Process การทำงานจะช้า เนื่องจากการเข้ารหัสข้อมูล ทำให้ใช้ CPU มากขึ้น โดยการเชื่อมต่อแบบปลอดภัยต้องใช้การตรวจสอบสิทธิ์ที่ซับซ้อนกว่า เช่น Public Key Authentication หรือ TLS Handshake ใน FTPS ทำให้เกิดความหน่วงเล็กน้อย
3.2 หากเป็นการดึงข้อมูลภายในเครื่อง สามารถเลือก Local ได้เลย โดยสามารถเลือก path ที่ต้องการดึงไฟล์ได้เลย
จากนั้นกดปุ่ม “NEXT STEP” (ปุ่มสีเขียว) เพื่อไปขั้นตอนต่อไป
4. เลือกกำหนดการใช้ IP สำหรับไฟล์ Backup (Step 2: Select IP)
4.1 Stored in the backup (ใช้ IP ที่บันทึกไว้ใน Backup) เป็นการใช้ IP เดียวกับที่เก็บไว้ในไฟล์ Backup
4.2 From the list (เลือก IP จากรายการ) เลือก IP หากต้องการเปลี่ยน IP ในไฟล์ Backup
จากนั้นกดปุ่ม “NEXT STEP” (ปุ่มสีเขียว) เพื่อไปขั้นตอนถัดไป
5. เลือกไฟล์ Backup ที่ต้องการ Restore (Stop 3: Select File(s))
5.1 กรณีที่มีไฟล์ Backup อยู่แล้ว จะมีรายการไฟล์ขึ้นมาให้เลือก สามารถติ๊กและดำเนินการคลิก RESTORE ได้เลย ซึ่งผลการของ Restore นั้นมีดังนี้
– Step 1 : path ไฟล์ Backup ในเครื่อง >> Step 2 : Stored in the backup >> Step 3 : ไฟล์ Backup ที่ต้องการ Restore และ User ที่ต้องการวางไฟล์ = เป็นการ Restore ภายในเครื่อง โดยระบบจะดึงไฟล์ Backup จาก Step 1 แล้วใช้งาน IP เดิมจาก Step 2 และจะถูก Restore ที่ User ที่เลือกใน Step 3
– Step 1 : FTP >> Step 2 : form the list >> Step 3 : ไฟล์ Backup ที่ต้องการ Restore และ User ที่ต้องการวางไฟล์ = จะเป็นดึงไฟล์ Backup จาก FTP Server ภายนอก มายัง Server ปัจจุบัน จากนั้นไฟล์จะถูก Restore ที่ User ที่เลือกใน Step 3
5.2 กรณีที่ยังไม่มีไฟล์ Backup ใน Step 3 สามารถดำเนินการคลิกที่ CREATE BACKUP (ปุ่มสีเขียว) ได้เลย
Create Schedule Backup
จากข้อที่ 5.2 กรณีที่ยังไม่มีไฟล์ Backup ในเครื่อง สามารถดำเนินการสร้างไฟล์ Backup ได้ตามขั้นตอนดังนี้
แต่สำหรับใครที่ไม่ได้ดำเนินการมาถึงข้อ 5.2 แต่ต้องการสร้างไฟล์ Backup เมื่อหลังจาก Login DirectAdmin >> เมนู Admin Backup/Transfer ที่หัวข้อ Admin Tools แล้ว สามารถคลิก + SCHEDULE เพื่อเริ่มสร้างไฟล์ตาม Step ได้เลย
1. Step 1: Who ของ Admin Backup/Transfer จะมี 4 ตัวเลือกหลักที่ส่งผลต่อการเลือกผู้ใช้ที่ต้องการ Backup ดังนี้ :
1.1 All Users (ผู้ใช้ทั้งหมด) : ระบบจะ Backup ทุกบัญชีผู้ใช้ ในเซิร์ฟเวอร์ โดยอัตโนมัติ ไม่ต้องเลือกผู้ใช้เอง เหมาะสำหรับการ Backup ข้อมูลทั้งหมดในเซิร์ฟเวอร์
1.2 All Users Except Selected (ผู้ใช้ทั้งหมด ยกเว้นบางบัญชีที่เลือกไม่ Backup) : ระบบจะ Backup ทุกบัญชี แต่ ยกเว้น บัญชีที่เราติ๊กออก จะใช้เมื่อมีบางบัญชีที่ไม่ต้องการ Backup
1.3 Selected Users (เลือกผู้ใช้เฉพาะบางรายเท่านั้น) : เป็นการเลือก เฉพาะผู้ใช้ที่ต้องการ Backup เหมาะสำหรับการ Backup เฉพาะลูกค้าหรือโดเมนที่สำคัญ
1.4 Selected Creators and Their Users (เลือกเฉพาะ Creator และบัญชีของพวกเขา) : ระบบจะ Backup บัญชีหลัก (Creators/Admins) และ บัญชีที่สร้างโดยผู้ใช้เหล่านั้น ใช้ในกรณีที่เรามี Resellers หรือ Admin อื่นๆ ที่สร้างบัญชีลูกค้าไว้ และต้องการ Backup ข้อมูลของพวกเขาทั้งหมด
เมื่อเลือกวิธีได้เรียบร้อย กด “Next Step” ไปได้เลย แต่หากไม่ต้องการ Backup บัญชีที่ถูก Suspend สามารถดำเนินการติ๊ก “Skip Suspended” ระบบจะ ไม่ Backup บัญชีที่ถูก Suspend
2. Step 2: When เป็นการกำหนดเวลาสำหรับ Backup
2.1 Now → Backup ทันที
2.2 Cron Schedule → ตั้งค่า Backup อัตโนมัติตามกำหนดเวลา
หากเลือก Cron Schedule จะต้องตั้งค่า:
– Minute → กำหนดนาทีที่เริ่มทำงาน
– Hour → กำหนดชั่วโมงที่เริ่มทำงาน
– Day of Month → กำหนดวันที่ของเดือน (เว้นว่างหากต้องการให้ทำงานทุกวัน)
– Month → กำหนดเดือนที่ต้องการให้ทำงาน
– Day of Week → กำหนดวันในสัปดาห์ (เช่น จันทร์-อาทิตย์)
ตัวอย่าง: หากตั้งค่า Minute = 0, Hour = 5, Day of Month = *, Month = *, Day of Week = * หมายความว่า Backup จะทำงาน ทุกวันตอนตี 5
3. Step 3: Where เป็นการเลือกตำแหน่งที่ต้องการเก็บไฟล์ Backup ซึ่งกำหนดโฟลเดอร์ที่ต้องการเก็บไฟล์ Backup เช่น
3.1 เก็บไว้ในเครื่อง เช่น ที่ path /home/admin/admin_backups/ หรือ path อื่นๆที่ต้องการ
3.2 ส่งออกไปยังเซิร์ฟเวอร์ภายนอก โดยวิธี FTP หรือ SFTP
– IP: ระบุ IP ของเครื่องที่เก็บไฟล์ Backup
– Username: กรอกชื่อผู้ใช้ FTP
– Password: กรอกรหัสผ่าน FTP
– Remote Path: ระบุโฟลเดอร์ที่เก็บ Backup
– Port: ค่าเริ่มต้นเป็น 21 (พอร์ตของ FTP)
– Secure FTP: ติ๊กถูกหากต้องการเชื่อมต่อแบบปลอดภัย แต่ Process การทำงานจะช้า เนื่องจากการเข้ารหัสข้อมูล ทำให้ใช้ CPU มากขึ้น โดยการเชื่อมต่อแบบปลอดภัยต้องใช้การตรวจสอบสิทธิ์ที่ซับซ้อนกว่า เช่น Public Key Authentication หรือ TLS Handshake ใน FTPS ทำให้เกิดความหน่วงเล็กน้อย
เมื่อเลือกวิธีได้เรียบร้อย คลิก “NEXT STEP” เพื่อดำเนินการในขั้นตอนถัดไปได้เลย
ในส่วนของ Append มีไว้เพื่อกำหนดเงื่อนไขหรือตัวกรองเพิ่มเติมสำหรับการสำรองข้อมูล โดยเฉพาะเมื่อเราใช้ FTP เป็นที่เก็บข้อมูลสำรอง ตัวเลือก “Append” ช่วยให้เราสามารถระบุเงื่อนไขเฉพาะสำหรับการสำรองข้อมูล เช่น:
– Day of Week: เลือกวันในสัปดาห์ที่คุณต้องการทำการสำรองข้อมูล (เช่น วันพุธ)
– Day of Month: เลือกวันที่ในเดือนที่คุณต้องการทำการสำรองข้อมูล (เช่น วันที่ 5)
– Week of Month: เลือกสัปดาห์ในเดือนที่คุณต้องการทำการสำรองข้อมูล (เช่น สัปดาห์ที่ 2)
– Month: เลือกเดือนที่คุณต้องการทำการสำรองข้อมูล (เช่น มีนาคม)
– Full Date: ระบุวันที่เต็มที่คุณต้องการทำการสำรองข้อมูล (เช่น 2025-03-05)
– Custom: กำหนดเงื่อนไขที่กำหนดเองตามความต้องการของคุณ
การใช้งานส่วน “Append” ช่วยให้เราสามารถกำหนดการสำรองข้อมูลให้มีความยืดหยุ่นและตรงตามความต้องการเฉพาะของระบบหรือธุรกิจของเรามากขึ้น
หากไม่ต้องการดำเนินการในส่วนนี้ สามารถข้ามไปได้เลย
4. Step 4: What เลือกประเภทข้อมูลที่ต้องการ Backup
4.1 All Data เป็นการ Backup ข้อมูลทั้งหมด
4.2 Selected Data สามารถเลือกข้อมูลที่ต้องการ Backup
เมื่อดำเนินการเลือกวิธีได้เรียบร้อย คลิก SCHEDULE เพื่อเริ่มกระบวนการ Backup ได้เลย เมื่อดำเนินการ Backup เรียบร้อย ต้องการ Restore ผ่านสิทธิ์ Admin สามารถดำเนินการตามต้นเรื่องได้เลย
